วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พาเวล เนดเวด

ยืนหยัดในเส้นทางค้าแข้งมาเกือบๆ 20 ปี สุดท้าย พาเวล เนดเวด ปีกอัจฉริยะชาวเชกของยูเวนตุสก็ประกาศยืนยันว่าเขาจะแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาลนี้แล้ว
เนดเวดเริ่มต้นค้าแข้งตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ โดยได้เป็นเด็กฝึกหัดของทีมเยาวชนดูคลา ปราก ก่อนจะเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในปี 1991
อยู่กับดูคลาฯ ชุดใหญ่ได้แค่ปีเดียว สปาร์ต้า ปราก ทีมดังในลีกเชกก็เซ็นสัญญาคว้าตัวเนดเวดไปร่วมทัพ
ตลอด 4 ปีกับสปาร์ต้า ปราก มิดฟิดล์ผมทองทำผลงานยอดเยี่ยม ด้วยการพาต้นสังกัดค้าแชมป์ลีก 3 สมัย ฟอร์มการเล่นดังกล่าวเตะตาแมวมองจากอิตาลี ที่ดึงเขาไปเซ็นสัญญากับลาซิโอ ในปี 1996
เนดเวดประสบความสำเร็จทันทีที่เล่นให้ทีมอินทรีฟ้าขาว และมีส่วนร่วมทำให้ลาซิโอในยุคนั้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบหลาย 10 ปี
เริ่มตั้งแต่คว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย ในฤดูกาล 1997-98 ต่อด้วยแชมป์ คัพ วินเนอร์ส คัพ ในซีซั่น 1998-99 ซึ่งเนดเวดเป็นคนยิงประตูชัยดับเรอัล มายอร์ก้า 2-1 ด้วย
เท่านั้นไม่พอ ในฤดูกาล 1999-00 อัจฉริยะผมทองยังพาลาซิโอคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งเซเรีย อา และโคปปา อิตาเลียมาครองได้สำเร็จ

แต่น่าเสียดายที่ยุคทองของทัพเบียงโค่เชเลสเต้ต้องสะดุดลงด้วยปัญหาการเงินของสโมสรที่เสี่ยงล้มละลาย ทำให้ต้องขายนักเตะแถวหน้าของทีมออกไปเป็นว่าเล่น
เนดเวดเองก็หนีไม่พ้นเป็น 1 ในเพชรเม็ดงามของลาซิโอที่ต้องขายเปลี่ยนเป็นเงินมาช่วยกอบกู้สถานะของสโมสร
ยูเวนตุส ยื่นขอซื้อเขาไปร่วมทัพในปี 2001 ในราคาสูงถึง 41 ล้านยูโร เพื่อนำไปแทนที่ ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพเลือดน้ำหอมที่ยูเว่ขายไปให้เรอัล มาดริดในซัมเมอร์นั้น
แม้ดูเหมือนความคาดหวังและความกดดันจะสูง แต่เนดเวดรับมือกับสิ่งแวดล้อมใหม่ในรังม้าลายได้ดีเยี่ยม
นอกจากจะเล่นได้หลายตำแหน่ง ทั้งมิดฟิลด์ัตัวรุก และปีกซ้าย เนดเวดยังยกระดับฟอร์มของเขาให้ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าในสีเสื้อเบียงโค่เนรี่
เขากลายเป็นตัวหลักของทีมม้าลายตั้งแต่ต้นและร่วมคว้าสคูเด๊ตโต้กับทีมตั้งแต่ฤดูกาลแรก ก่อนจะเดินหน้าซิวแชมป์มากมายทั้ง โคปปา อิตาเลีย อีก 2 สมัย และคัพ วินเนอร์ส คัพในปี 1998-99
แต่เรื่องน่าเสียดายคือเนดเวดไม่ได้มีโอกาสลงสนามในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เจอกับเอซี มิลาน ทีมร่วมลีกในปี 2003 ก่อนที่ยูเว่จะแพ้ดวลจุดโทษไปในที่สุด
อย่างไรก็ดี รางวัลปลอบใจของกองกลางเลือดเชกก็คือในปลายปีนั้น เขาได้รับเลือกให้ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรป หรือบัลลง ดอร์
นอกจากนี้ยังเป็นมิดฟิลด์ยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์ชปล.และแข้งยอดเยี่ยมเซเรีย อา อีกด้วย
สำหรับผลงานในทีมชาติ เนดเวดได้ประเดิมติดธงนัดแรกเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 1994 และได้เป็นกัปตันทีมในเวลาต่อมา
เนดเวดนำทัพเชกสร้างผลงานสุดเซอร์ไพรส์ทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยูโร 2004 แต่สุดท้ายก็พ่ายกรีซ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ชวดเข้าชิงอย่างน่าเจ็บใจ และกรีซก็ได้เป็นแชมป์ในเวลาต่อมา
หลังจากได้บัลลงดอร์มาเชยชม ดูเหมือนความสำเร็จจะห่างหายไปจากเนดเวด ในฤดูกาล2005-06 ยูเวนตุสเผชิญมรสุมครั้งสำคัญในการโดนปรับตกชั้นไปเล่นเซเรีย บีจากคดีติดสินบนล้มบอล
เล่นเอานักเตะแถวหน้าของทัพเบียงโค่เนรี่หลายราย โยกย้ายหนีทีมไป ขณะที่อนาคตของเนดเวดก็ได้รับการจับตามอง แต่สุดท้ายเจ้าตัวประกาศขอร่วมหัวจมท้ายไปกับทีมม้าลาย และสัญญากับแฟนๆ จะพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาให้ได้
แน่นอนว่าเนดเวดกลายเป็นขวัญใจอันดับต้นๆ ของสาวกยูเวนิสต้า จากความจงรักภักดีและผลงานที่ยอดเยี่ยมตลอด และสุดท้ายเขาก็ช่วยให้ยูเว่คว้าแชมป์เซเรีย บี ตั้งแต่เนิ่นๆ และกลับสู่เซเรีย อาได้ในทันที
แม้เนดเวดจะมีความหมายกับยูเว่มากมาย แต่ก็มีข่าวลือลอดว่าเขาจะเลิกในปี 2008 เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าตลอด หลังจากที่หายกลับมา มีรายงานว่ามิดฟิลด์เชกจะใช้เวลาช่วงสุดท้ายในชีวิตค้าแข้งกับจูบิโล่ อิวาตะ ทีมในลีกยุ่น
แต่สุดท้ายเนดเวดก็เลือกต่อสัญญากับยูเว่อีกปี ทำให้ฤดูกาล 2008-09 กลายเป็นซีซั่นสุดท้ายในชีวิตนักเตะอาชีพของเจ้าตัว
น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าทีมม้าลายไม่อาจช่วยปิดฉากรูดม่านเวทีค้าแข้งของเนดเวดให้สมบูรณ์แบบด้วยการคว้าแชมป์ใดๆ ในปีนี้ แต่ถึงกระนั้น ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเนดเวดคืออีกหนึ่งสุดยอดมิดฟิลด์แห่งทศวรรษ ที่เป็นแบบอย่างยอดเยี่ยมทั้งในและนอกสนาม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น